วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

เสียงน้ำและความเงียบงัน ๒

บันทึกเชียงของ

เมื่อเอ่ยถึงเชียงของ หลายคนคงคิดถึงเมืองริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่นักท่องเที่ยวมาเยือนก่อนเดินทางเข้าสู่ลาวเหนือและหลวงพระบาง

เชียงของเป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดเชียงราย มีแม่น้ำโขงไหลแบ่งเป็นเส้นพรมแดนไทย-ลาวตอนเหนือ หลายคนที่ต้องมนตร์เสน่ห์แห่งเชียงของคงมิใช่เพราะเชียงของเป็นสะพานข้ามไปสู่ประเทศลาวเท่านั้น แต่เป็นเพราะความสงบเงียบของเมืองริมฝั่งแม่น้ำโขง ความงดงามของเกาะแก่งหินผาในแม่น้ำโขง และวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของผู้คนที่นี่ รวมถึงความมีน้ำใจไมตรีของพวกเขา

ฤดูกาลหมุนเวียนอยู่ที่นี่ เมื่อถึงฤดูฝน ชาวไร่ชาวนาเริ่มทำงานในไร่นาของตน ชาวประมงลงเรือหาปลาในแม่น้ำโขง เพราะเป็นช่วงที่ปลาเดินทางทวนน้ำขึ้นมาเพื่อหาที่วางไข่ และจะอพยพกลับเมื่อระดับน้ำลดลงในช่วงฤดูหนาว เรียกได้ว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ในป่ามีพืชผักเห็ดหน่อไม้ให้เก็บกิน ครั้นถึงฤดูหนาว ระดับน้ำโขงเริ่มลดลง ชาวบ้านจะลงมาปลูกพืชผักริมฝั่งแม่น้ำโขง แม่น้ำจะเริ่มงดงามในช่วงนี้เพราะน้ำลดระดับลงมากจนเห็นหินงามน้ำใส สายไกสีเขียวไหวพลิ้วราวแพรไหมงอกงามตามหินตามผาและหาดหินที่แสงแดดส่องถึง ชาวบ้านจะลงมาเดินเก็บไกอยู่ตามหาดหินในทุกๆ เช้า เช่นเดียวกับชาวประมงยังคร่ำเคร่งลอยเรือไหลมองของตน

ครั้นเมื่อดอกซอมพอแย้มบานในหน้าร้อน เด็กๆ ต่างเฝ้ามองนกนางนวลเหนือเส้นขอบฟ้า และรอคอยฝูงปลาบึกเดินทางออกจากวังบาดาลขึ้นมาวางไข่ตามห้วงน้ำลึกเหนือเมืองขึ้นไป เด็กๆ และคนหนุ่มสาวจะลงมาเล่นน้ำในแม่น้ำโขง ช่วงนี้ยังมีงานปีใหม่เมือง งานบวงสรวงเจ้าพ่อปลาบึก และงานบวงสรวงเจ้าพ่อผาถ่านอันเป็นประเพณีสืบทอดต่อกันมาของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำโขง

นอกจากนี้ เชียงของยังมีร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง และนี่คือเรื่องราวของเมืองเชียงของ เป็นบันทึกจากร้านกาแฟที่ว่านี้


ไม่มีความคิดเห็น: