วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เสียงน้ำและความเงียบงัน ๖๑

การผลิแตก

ทันทีที่ฝนปรอยสาย ฉันรู้ว่าบางสิ่งบางอย่างกำลังก่อเกิดขึ้นมา แม้มันจะเป็นเพียงแค่สายฝนกลางพายุฤดูร้อน

ฝนตกลงมาเพียงสองสามครั้ง สรรพสิ่งรอบข้างดูเหมือนจะแปรเปลี่ยนไป แม้ใบไม้ยังคงเหลืองแห้งร่วงหล่น แต่พื้นดินที่เคยแห้งผากกลับดูชุ่มชื้น ใต้พื้นดินเริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก เช่นเดียวกับตามกิ่งก้านของต้นไม้ เพียงสองสามวันหลังจากฝนตก ผืนดินเริ่มแลละลานไปด้วยสีเขียวเล็กๆ กิ่งก้านของต้นไม้เริ่มผลิแตกตุ่มใบ บ้างมีสีเขียวใส และบ้างแดงสดราวสีเพลิง ใบอ่อนเล็กๆ มากมายกำลังผลิแตกและเติบโต ต้นอ่อนเล็กๆ มากมายงอกเงยขึ้นจากเมล็ดพันธุ์นิรนาม สิ่งที่เคยเป็นนามธรรม แปรเปลี่ยนเป็นรูปธรรม มองเห็นและสัมผัสได้

ความมีชีวิตกำลังเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ตระเตรียมร่างกายและหัวใจ ไว้ต้อนรับฤดูฝนที่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า รอคอยฤดูกาลใหม่ที่จะมาเยือนพร้อมกับความฉ่ำเย็น.

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เสียงน้ำและความเงียบงัน ๖๐

เสียงร้องเรียก

ความเย็นยังไม่จางหายในอากาศ โรงเรียนใกล้จะปิดเทอมแล้ว ทุกๆ วัน เด็กๆ มาลงเล่นน้ำริมฝั่งโขง

สายน้ำยังคงเย็นเยือก ใสและเริ่มตื้นเขิน ไกสีเขียวเล็กๆ ส่ายไหว แม้จะมีไม่มากเช่นปีกลาย เสียงร้องเรียกหัวเราะของเด็กๆ ชักชวนคนอื่นๆ ลงมาร่วมเล่นน้ำ ทั้งเด็กหญิง เด็กชาย และหนุ่มสาว

เณรน้อยสามสี่คนเดินเป็นทิวแถว สบงสีแสดปลิวไสวมาจากท่าเรือ พวกเขาพากันลงมาเล่นน้ำ ด้วยไม่อาจทนต่อเสียงร้องเรียกหัวเราะอันเย้ายวนได้ ในเมื่อเณรน้อยยังเป็นเด็ก ในเมื่อพวกเขาเพียงแต่นึกถึงความสนุกก่อนบวชเรียนเท่านั้น ก่อนเดินจากไปด้วยหัวใจอันชุ่มฉ่ำ

เสียงร้องเรียกหัวเราะยังระริกรื่น เสียงที่อาจชักชวนหัวใจที่ยังเป็นเด็กทุกดวง มารวมกันอยู่ริมฝั่งน้ำ เพื่อรำลึกถึงวัยเยาว์ร่วมกัน.