ช่างง่ายดายเสียจริง ชีวิตคนเราหล่นร่วงดั่งใบไม้แห้ง ฉากการจากลาแห่งธรรมชาติ
ความตายได้พรากเอาชีวิตของบุคคลที่รักไปอีกครั้งหนึ่ง ละสังขารอันเปื่อยเน่าผุพังลงตามกาลเวลาไว้ในเชิงตะกอน ลอยล่องสู่แห่งหนไม่คุ้นเคยยังอีกภพหนึ่ง เหลือทิ้งไว้เพียงร่องรอยอาลัยแห่งความดีงามในหัวใจทรงจำของลูกหลาน
หรือชีวิตมีเพียงแค่นี้…
ขบวนแห่ศพของชีวิต
ครั้นสิ้นเสียงดนตรี ท้องฟ้าหม่นสลัวสลับแดด สายลมพลิ้วผ่านใบไม้ร่มรื่น เชิงตะกอนนอนเงียบรอคอย ร่างไร้วิญญาณของพ่อเฒ่าในโลงศพที่ประดับประดาด้วยปราสาทและพวงหรีดดอกไม้ สรรพสิ่งราวสงบนิ่งรอคอยอยู่ชั่วขณะ อาลัยอาวรณ์…
ก่อนเคลื่อนไหวอีกครั้งพร้อมประกายเพลิงอันร้อนแรง
ช่างง่ายดายเสียงจริง ชีวิตคนเราหล่นร่วงดุจใบไม้แห้งแห่งฤดูกาล
สรรพชีวิตต่างเคลื่อนไหวไปตามบทเพลงแห่งธรรมชาติ แปรเปลี่ยนอยู่เนืองนิจ เมื่อธรรมชาติได้ให้กำเนิดชีวิตในวันหนึ่ง ธรรมชาติจึงพรากเอาชีวิตกลับคืนไป เฉกเช่นเดียวกับการถือกำเนิดของตุ่มใบเขียวสดใสบนกิ่งไม้ผลิแตกเป็นใบไม้งดงาม เพื่อเหี่ยวแห้งรอการร่วงโรยในวันหนึ่ง
เช่นเดียวกับวันนี้ เมื่อสายลมพลิ้วแผ่วมาเยือน ใบไม้แห้งจึงปลิดขั้วจากกิ่งก้าน ลอยคว้างสู่ผืนแผ่นดิน
ฉากการจากลาอันแสนธรรมดาจึงจบลง.