วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2550

เสียงน้ำและความเงียบงัน ๓๕

นักขี่จักรยาน

กว่ายี่สิบกิโลเมตรจากบ้านสวนไปเชียงของ หลายครั้งที่ฉันมีธุระในเมือง ฉันจะขี่จักรยานออกไปในตอนเช้า และขี่กลับมาในตอนเย็น เป็นอยู่เช่นนี้หลายครั้งหลายคราด้วยกัน

แปดกิโลเมตรจากปากทางเข้าบ้านปากอิงมาถึงสวน ตามถนนเลียบแม่น้ำอันสวยงาม ฉันมักจะเลือกขี่รถจักรยานเข้าและออกในตอนเช้าและเย็น เพราะแสงแดดไม่ร้อนเกินไปนัก แต่บ่อยครั้งที่ฉันต้องขี่รถตากฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา

แต่ละครั้งที่ขี่รถผ่านหมู่บ้าน ชาวบ้านที่นั่งทำงานหรือพูดคุยกันอยู่บนลานบ้าน พวกเขาจะหันมองดูฉันด้วย รอยยิ้ม ทุกครั้งฉันจะยิ้มให้พวกเขา ชาวบ้านที่เดินผ่านไปมา หรือพวกเด็กๆ ที่เล่นอยู่ข้างถนน บางครั้งฉันเอ่ยทักทายพวกเขา และบางครั้งฉันท้าแข่งกับเด็กที่กำลังขี่รถจักรยาน

ครั้งหนึ่ง ขณะฉันขี่รถผ่าน เด็กหญิงคนหนึ่งร้องเรียกให้พี่ชายออกมาดูฉัน –ฝรั่งมา ฝรั่งมา- เธอตะโกนเรียกพี่ชาย ฉันได้แต่มองดูเธอด้วยรอยยิ้ม

คงเช่นเดียวกับทุกครั้ง ขณะฉันขี่รถผ่านกลุ่มเด็กที่เล่นกันอยู่ตรงทางแยกเข้าบ้านปากอิง พวกเขามองดูฉัน ยิ้มทักทาย ฮัลโหล และพากันหัวเราะ พวกเขาคงคิดว่าฉันเป็นนักท่องเที่ยวผู้ชอบขี่จักรยาน หรือไม่ก็คงคิดว่าฉันเป็นนักขี่จักรยาน ในสายตาของพวกเขา ฉันอาจเป็นคนต่างชาติ เพราะหลายครั้ง ฉันพบว่าชาวบ้านมักทักทายฉันด้วยภาษาอังกฤษอยู่เสมอ

แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลยอย่างที่เขาคิด และคงไม่มีนักขี่จักรยานคนไหน เอาตะกร้าใบใหญ่ผูกไว้ท้ายรถเช่นนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะตะกร้าใบนี้ก็ได้ ที่ทำให้ฉันพบรอยยิ้มของผู้คน.

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2550

เสียงน้ำและความเงียบงัน ๓๔

เสียงเรือหางยาว

ทุกครั้งที่ฉันได้ยินเสียงนี้ ฉันมักสะดุ้งรำคาญหัวใจกับเสียงแผดลั่นของเรือหางยาว ดังขึ้นจากโค้งน้ำไกลและค่อยๆ ใกล้เข้ามา ก่อนค่อยๆ ลับหายไปอีกครั้งหนึ่ง

ดูเหมือนมันจะเป็นเสียงเดียวที่แปลกต่างไปจากภูมิประเทศอันเงียบสงบแห่งนี้ หมู่บ้านสองฟากฝั่ง เรือน้อยหาปลา หรือแม้แต่เรือโดยสารไปหลวงพระบาง ยังไม่ทำลายโสตประสาทมากเท่ากับเสียงเรือหางยาวเหล่านี้ เสียงของมันฉีกแหวกอากาศออกไปไกลลิบลับ ราวกับต้องการทำลายทุกสรรพเสียงที่มีอยู่ในโลก ลำเรือของมันฉีกตัดแม่น้ำออกเป็นช่อง ปล่อยคลื่นน้ำม้วนโตเข้ากระแทกสองฟากฝั่ง

หากทว่าเสียงของเรือหางยาวกลับพาฉันย้อนกลับไปสู่อดีต เสียงเครื่องเรือที่แผดก้องท้องน้ำอยู่ทุกเช้าเย็น จากโค้งคุ้งน้ำไกลมายังตลาดบ้านแพน เสียงที่ค่อยๆ จางหายไป แต่กลับเย้ายวนให้หวนหาอาลัย

หรือว่ามีแต่สิ่งที่เลือนหายไปเท่านั้นที่ทำให้มนุษย์หวนหาอาลัย หรือว่าต้องรอให้ภาพอันงดงามเหล่านี้สูญหายไปเสียก่อน เราจึงตระหนักถึงความสำคัญ มิต่างกันเลย ไม่ว่าเกาะแก่งหรือแม่น้ำสายนี้

หรือต้องรอให้ทั้งหมดทั้งมวลสูญหายไปเสียก่อน.

เสียงน้ำและความเงียบงัน ๓๓

ท่าเรือ

วันนี้ท่าเรือแจมป๋องมีผู้คนคึกคักเป็นพิเศษ ต่างจากหลายครั้งก่อนที่ฉันเคยเห็น นั่นเป็นเพราะด่านผ่อนปรนชายแดนทำให้คนจากฟากตะวันออกของแม่น้ำข้ามมาหาซื้อข้าวของกันได้

มันเป็นวันว่างๆ ของเรา พี่อู๊ดชวนเราไปเที่ยวท่าเรือ บริเวณหน้าด่านมีแพอยู่หลายลำ เปิดเป็นร้านอาหาร ขายก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ลาบน้ำตก และพืชผักผลไม้ เราพากันเดินมาบริเวณศาลา ดวงตาหลายคู่เฝ้ามองการมาของเรา ถัดจากศาลามีคนมาตั้งเพิงขายเสื้อผ้าเก่า มีคนลาวเลือกซื้ออยู่สามสี่คน

เราเดินลงมาสั่งอาหารบนแพ และนั่งเล่นอยู่ริมแพ เอาขาแช่น้ำเย็นเยือก รายการอาหารของทุกร้านเขียนเป็นภาษาลาว ฉันพอจะอ่านออกและเดารายการอาหาร หลังจากกินอาหารเสร็จ เรากลับมานั่งเล่นอยู่ที่เดิม เรือจากฝั่งลาวหลายลำมาจอดรอซื้อของและรอรับผู้โดยสาร บางคนขึ้นมานั่งกินอาหาร บางคนนั่งรอเพื่อนร่วมทางอยู่บนแพ และอีกหลายคนจัดเตรียมสัมภาระอยู่ในเรือ ซึ่งบรรทุกของเพียบ กลางลำเรือมีแผงโค้งคุ้มฝนคุ้มแดด หมาสองตัวโผล่หน้าออกมาจากลำเรือ ผู้คนเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก เต็มด้วยสรรพเสียงและสีสัน

กลางแม่น้ำมีเรือไหลมองอยู่หลายลำ ฝั่งตรงข้ามเป็นหมู่บ้านทางฝั่งลาว เสียงเรือหางยาวดังลั่นมาจากโค้งน้ำ แล่นด้วยความเร็วปล่อยน้ำกระจายตีเกลียวคลื่นม้วนโตเข้าหาสองฟากฝั่ง เรือโดยสารเริ่มทยอยออกเดินทาง เมื่อผู้โดยสารมากันครบ พวกเขาขึ้นไปนั่งรวมกับข้าวของบนเรือจนปริ่มล้น เรือเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า ค่อยๆ หายลับไป พี่อู๊ดบอกว่า เรือพวกนี้ส่วนมากมาจากเมืองปากทาที่อยู่ทางตอนใต้ลงไป

แม่หญิงลาวคนหนึ่งเดินขนของมาลงเรือกับแม่ของนาง นางคงข้ามมาทำงานอยู่ทางฟากนี้ เมื่อชายชราถอยเรือเข้ามารับ ฉันช่วยจับกราบเรือไว้ให้นาง เมื่อนางและแม่นั่งเรียบร้อย เรือค่อยๆ ถอยออกห่าง ฉันเฝ้ามองใบหน้าสวยงามอย่างเรียบง่ายของแม่หญิง ความงามที่ไร้การปรุงแต่ง ใบหน้านั้นค่อยๆ ถอยห่างออกไป และห่างออกไป กลับไปสู่หมู่บ้านของนาง.

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2550

เสียงน้ำและความเงียบงัน ๓๒

แสงหิ่งห้อยและเสียงร้องของอึ่งอ่าง


ความมืดเข้ามาเยือนอย่างเชื่องช้าเฉื่อยเนือย เช่นเดียวกับอากัปกิริยาของสายฝน พรมพรำอยู่เช่นนั้น อ้อยส้อยอยู่เช่นนั้น ไร้ท่าทีเบื่อหน่าย ท่ามกลางสรรพเสียงระเบ็งระบือไกล

ครั้นความมืดมาเยือน แสงวับแวมค่อยๆ ลอยคว้างขึ้นมาจากพรมหญ้า จากบริเวณสวนป่า แสงเรืองรอง วิบวับราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า คว้างลอย อ้อยอิ่งอยู่เช่นนั้น

แสงหิ่งห้อยมากมายวับแวมในความมืดของสายฝน เนิ่นนานเท่าไหร่แล้ว ที่ฉันไม่ได้เห็นแสงเรืองรองเช่นนี้ โอ…กี่ปีมาแล้ว ที่ฉันหลงลืมแสงเรืองรองของหิ่งห้อย

สายฝนจางหายจากท้องฟ้าค่ำ สรรพเสียงยังระงมดัง แทรกอยู่ในเสียงแมลงแห่งพงไพร แทรกอยู่ในเสียงกบเขียด เสียงหนึ่งดังขึ้นมาในท่ามกลางส่ำเสียง อึ่งง อ่างง อึ่งง อ่างง เสียงอึ่งอ่างค่อยๆ ดังขึ้นทีละเสียงสองเสียงจากในสวน

เสียงอึ่งอ่างร้องดังกังวานเมื่อฝนขาดสาย เสียงร้องของมันทำให้ฉันหวนนึกไปถึงวัยเด็ก อึ่งอ่างชอบร้องหลังสายฝนหยุดลง พวกมันเกาะกันอยู่ตามกอหญ้าข้างถนน ส่งเสียงร้องเรียกกันและกัน โอ…เนิ่นนานเท่าไหร่แล้วที่ฉันไม่ได้ยินเสียงร้องของอึ่งอ่าง กี่ปีมาแล้วหนอ ที่ฉันหลงลืมเสียงนี้


บทเพลงในท่วงทำนองอันแปลกประหลาดประสานกันในค่ำคืนแห่งสายฝน ขับกล่อมจนฉันหลับใหล.

วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2550

เสียงน้ำและความเงียบงัน ๓๑

ภาคสาม : ฤดูฝน
บ้านสวนตำมิละ

ฤดูกาลแห่งสายฝนมาเยือนแล้ว ฉันปิดร้านกาแฟเป็นการชั่วคราวในฤดูกาลนี้ ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านสวนตำมิละ ตำบลแจมป๋อง อำเภอเวียงแก่น ภายหลังจากดูแลความฝันของเพื่อนมาหลายเดือน ฉันคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องดูแลปัดฝุ่นความฝันของตัวเองเสียที

สายฝนยังคงเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีของฉันเสมอ แม้ในวันที่ฉันย้ายเข้าไปอยู่ในสวน ฝนยังตกพรำไม่มีทีท่าจางหายเมื่อฉันออกจากเชียงของ ฉันขี่รถจักรยานมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านปากอิง ก่อนเลี้ยวเข้ามาทางอำเภอเวียงแก่น ลัดเลาะมาตามถนนเลียบแม่น้ำโขง ข้ามเนินเขาสองสามลูก ปล่อยให้รถไหลลงเนินสุดท้ายจนมาถึงบ้านสวนตำมิละ

อาทิตย์กับก้อย ขี่รถเครื่องตามมาส่ง เราช่วยกันทำความสะอาดบ้าน ฉันจัดเตรียมอาหารในครัว เมื่อท้องฟ้าเลือนสลัว เราล้อมวงนั่งกินข้าว จากนั้นทั้งสองคนจึงปล่อยฉันไว้แต่เพียงลำพัง

เสียงต่างๆ ระงมดังมาจากความมืดในสวน เสียงหรีดหริ่งเรไร เสียงกบเขียด เสียงหวีดแหลมของงู และเสียงที่ฉันไม่อาจแยกแยะได้อีกมากมาย แสงไฟกลางบ้านชักชวนหมู่แมลงเข้ามาเริงรำอย่างสนุกสนาน ขณะที่ตุ๊กแกคืบคลานเข้ามาเขมือบกินแมลงอย่างเงียบงัน

ฉันนั่งฟังเสียงต่างๆ ที่ดังอยู่รายรอบ เบื้องหลังสรรพเสียงเหล่านั้น มีความเงียบสงัดซ่อนอยู่ ฉันปรารถนาเก็บมันเข้ามาไว้ในใจ.