วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2550

เสียงน้ำและความเงียบงัน ๒๒

แม่น้ำฤดูร้อน

ยามบ่ายคล้อย ท้องฟ้าสดกระจ่าง ลมนิ่งสงบ แม่น้ำไหลเอื่อย เสียงของเด็กๆ ดังขึ้นจากที่ใดที่หนึ่ง ใกล้เข้ามาและเงียบหาย

อย่างเงียบงัน เด็กชายคนหนึ่งนั่งบนราวบันไดเหล็ก แล้วปล่อยตัวลื่นไถลลงมาจนถึงบันไดขั้นสุดท้าย เขากระโดดลงและยืนยิ้ม มองดูเพื่อนๆ ที่กำลังปล่อยตัวเองลื่นไถลลงมา เสียงของพวกเขาดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พากันเดินข้ามถนนไปยืนมองดูระดับน้ำที่สูงมากขึ้นจากวันวาน พวกเขาเดินเข้ามาซื้อขนมคนละห่อสองห่อ จากนั้นจึงวิ่งลงจากบันไดไปยังริมฝั่งน้ำ เสียงพูดคุยของพวกเขา เสียงหัวเราะของพวกเขา เขย่าให้สายลมเคลื่อนไหวอีกครั้ง

เด็กๆ มาเล่นน้ำกันทุกวัน ตั้งแต่บ่ายจวบจนเย็นย่ำ เสียงเริงเล่นอย่างสนุกสนานของพวกเขา เรียกร้องให้เด็กๆ ในหมู่บ้านออกมารวมตัวอยู่ริมฝั่งน้ำ จากสามสี่คนเพิ่มขึ้นเป็นสิบ ยี่สิบคน จนเต็มร่องน้ำที่อยู่ระหว่างชายฝั่งกับสันดอน ตั้งแต่เด็กเล็กๆ สามสี่ขวบที่มากับพ่อแม่ จนถึงเด็กอายุสิบห้าสิบหก พวกเขามากระโดด ว่ายน้ำ ดำน้ำ สาดเม็ดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน บางคนมาเล่นกองทรายริมฝั่ง บางคนมาอาบน้ำ สระผมและถูสบู่ พวกผู้ใหญ่บางคนลงไปเล่นน้ำกับเด็กๆ เสียงหัวเราะของพวกเขาดังสะท้อนกลับไปกลับมาระหว่างสองฟากฝั่งราวกับคลื่นน้ำ

แม่น้ำในฤดูร้อนเช่นนี้ ในยามบ่ายอันร้อนอ้าวเช่นนี้ เด็กๆ ตามหมู่บ้านต่างๆ จะลงมาเล่นน้ำยังท่าน้ำในหมู่บ้านของตน ตั้งแต่ท่าเรือ ท่าตำมิละ ท่าวัดหลวง ท่าวัดชัย ท่าวัดหาดไคร้ มิแตกต่างจากหมู่บ้านริมฝั่งทางฟากตะวันออกของแม่น้ำ

แม่น้ำแห่งฤดูร้อนจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเริงร่าของเด็กๆ.

ไม่มีความคิดเห็น: