วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2550

เสียงน้ำและความเงียบงัน ๑๒

เรือหาปลา

ทุกๆ วัน ในม่านหมอกยามอรุณ เรือหาปลาลอยลำกลางแม่น้ำโขง แล่นเข้าหาแสงตะวันเรืองรองเหนือเส้นขอบฟ้า แล่นฝ่าประกายวิบวับของแผ่นน้ำ ในคลื่นอันพลิ้วพรายของทุกๆ เช้า ฉันมองเห็นคนกับเรือหาปลาลำนั้น

สายลมหนาวยังพรูพรายพลิ้วไหว เรือหาปลาลอยลำโดดเดี่ยว เสียงเครื่องยนต์ก้องสะท้อน ฟองคลื่นแตกซ่าน โฉบร่อนจากแผ่นดินไทย มุ่งหน้าสู่ดอนทรายกลางลำน้ำ ก่อนชะลอตัวปรับทิศทางตั้งลำริมฝั่ง เสียงเครื่องยนต์ครางกระหึ่ม ลูกบอลถูกเหวี่ยงลอยคว้างเหนือสายน้ำ สายมองถูกปล่อยล่องไหล แล่นเรือทวนกระแส ทำมุม ๓๐ องศากับดอนทราย ๔๕ องศา ๖๐ องศา ๙๐ องศา ๑๒๐ องศา เครื่องยนต์ถูกผ่อนและดับนิ่ง ปล่อยให้เรือเคลื่อนที่เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวบนแผ่นน้ำ และไหลล่องเฉกเช่นกระแสน้ำ

สายตาเหม่อมองสายน้ำแผ่กว้าง จับจ้องลูกบอลลอยคว้างอย่างมีความหวัง ขณะมือหนึ่งวาดวนใบพายอยู่บนหัวเรือ ส่วนอีกมือหนึ่งถือสายมองมั่น ประสาทรู้สึกตื่นโพลงพร้อมรับสัมผัสอันหนักหน่วงใต้ผืนน้ำ

เวลาผ่านไปอย่างอ้อยอิ่งช้าเชือน แสงตะวันเพิ่มไออุ่นหอมอวล พรานปลาเร่งสาวสายมองขึ้นกองบนเรือ รับสัมผัสจากแรงกระตุกอันหนักหน่วง ยิ่งเข้าใกล้จุดหมาย แรงสัมผัสยิ่งหนักหน่วง

ชีวิตผู้คนริมฝั่งแม่น้ำโขงดำเนินอยู่เช่นนี้ แม่น้ำยังเคลื่อนไหลอย่างมีชีวิตชีวา แม่น้ำคอยโอบเอื้อชีวิตของ ผู้คนริมฝั่ง เกื้อกูลสายสัมพันธ์แห่งชีวิตมิให้ขาดรอน.

ไม่มีความคิดเห็น: